บทที่ 5
ลมหายใจอุ่นร้อนของอเล็กซานเดอร์รินรดอยู่ด้านหลังต้นคอ ทำให้ผิวของสการ์เล็ตต์รู้สึกร้อนซู่ซ่า
เธอแทบจะบรรยายความรู้สึกของตัวเองในตอนนั้นไม่ถูก
โกรธ? หรืออับอาย?
อาจจะทั้งสองอย่าง
สการ์เล็ตต์เคยคิดว่าอารมณ์เหล่านี้ได้ผ่านพ้นไปจากชีวิตเธอเนิ่นนานแล้ว
แต่เธอก็คือสการ์เล็ตต์ และเธอจะไม่ยอมให้อารมณ์มาควบคุมตัวเองได้นาน
สการ์เล็ตต์กลืนก้อนแข็งๆ ในลำคอ ดวงตาของเธอเป็นประกายขณะที่แสดงสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งเยาะหยัน
เธอยื่นมือออกไปแล้วลากปลายนิ้วไปตามแผงอกของอเล็กซานเดอร์ พลางหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ
“คุณอาอเล็กซานเดอร์คะ ตอนนี้ฉันเป็นคู่หมั้นของคุณเซบาสเตียนแล้วนะคะ ถ้าวันนี้คุณอาไม่มาสาย ป่านนี้ฉันคงกำลังรอรับคำแสดงความยินดีจากคุณอาอยู่”
อเล็กซานเดอร์ถอยหลังเล็กน้อย สการ์เล็ตต์จึงฉวยโอกาสนั้นเตรียมจะหลุดออกจากใต้วงแขนของเขา
การถูกต้อนให้จนมุมแบบนี้น่าอึดอัดจนทนไม่ไหว
แต่ทันทีที่เธอขยับ อเล็กซานเดอร์ก็มองความตั้งใจของเธอออก เขายื่นแขนออกไปดึงเธอกลับมาพร้อมกับเสียงหัวเราะทุ้มต่ำที่แฝงไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน “แบบนั้นไม่ยิ่งดีกว่าเหรอ?”
สการ์เล็ตต์รู้สึกอยากจะชกหน้าเขาสักหมัด
เป็นครั้งแรกที่เธอเข้าใจความหมายของคำว่าเวลาเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง
คนที่เคยสง่างามทรงภูมิกลับกลายเป็นคนไร้ยางอายแบบนี้ไปได้อย่างไร?
เธอจึงกระทืบเท้าลงบนเท้าของอเล็กซานเดอร์อย่างแรง อาศัยจังหวะที่เขาคลายแรงกอดรัดเพื่อหนีออกจากอ้อมแขนของเขา “คุณมันไร้ยางอาย!”
รองเท้าส้นสูงของเธอทิ้งรอยไว้บนรองเท้าหนังราคาแพงของเขา แต่อเล็กซานเดอร์ไม่ได้แม้แต่จะเหลือบมองมัน เขาก้าวเข้ามาหาเธอสองก้าว และหยุดลงเมื่อเห็นความตื่นตระหนกบนใบหน้าของสการ์เล็ตต์
อเล็กซานเดอร์หยิบแฟ้มประวัติการรักษาจากโต๊ะของไทเลอร์ขึ้นมา
บนนั้นเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า: [เทรซี่, อายุสองปีห้าเดือน]
ความรู้สึกอึดอัดระลอกหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในใจของเขา
อเล็กซานเดอร์โยนแฟ้มประวัติทิ้งไป น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยตัวเอง “ไร้ยางอายเหรอ? ผมสงสัยจัง คุณคอลลินส์ เซบาสเตียนรู้หรือเปล่าว่าเขากำลังจะเป็นพ่อเลี้ยง?”
สการ์เล็ตต์เงียบไป
เธอไปลืมเรื่องนั้นได้อย่างไรกัน?
การโกหกหนึ่งครั้งต้องใช้คำโกหกอีกนับไม่ถ้วนเพื่อปกปิด ยิ่งพูดยิ่งผิด
สการ์เล็ตต์ไม่คิดจะเปิดช่องให้อเล็กซานเดอร์ได้เปรียบ และเธอก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่เพื่อต่อบทสนทนาที่ไร้สาระนี้ด้วย
เธอสวนกลับไปสั้นๆ ว่า “ไม่เกี่ยวกับคุณ” แล้ววิ่งออกไป ทิ้งให้อเล็กซานเดอร์ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง ในสภาพที่ใกล้จะคลุ้มคลั่งเต็มที
เมื่อสการ์เล็ตต์กลับมาที่ห้องพักผู้ป่วย ไทเลอร์กำลังสั่งนางพยาบาลให้ทำตามคำสั่งของอเล็กซานเดอร์ทุกอย่างโดยไม่มีข้อกังขา
นางพยาบาลพยักหน้ารับคำรัวๆ
พอเห็นสการ์เล็ตต์เดินเข้ามา ไทเลอร์ก็สังเกตเห็นเลือดที่ริมฝีปากของเธอทันที
บาดแผลนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นรอยกัด
ในห้องมีกันอยู่แค่สองคน ดังนั้นคนที่กัดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...
ไทเลอร์ตกใจมาก
เขารู้จักอเล็กซานเดอร์มาสามปีแล้ว ไม่ว่าผู้หญิงที่เข้ามาหาเขาจะเซ็กซี่หรือร้อนแรงแค่ไหน อเล็กซานเดอร์ก็ไม่เคยแสดงความสนใจเลย
เขาถึงกับเคยสงสัยรสนิยมทางเพศของอเล็กซานเดอร์
ที่แท้ก็ชอบผู้หญิงมีเจ้าของนี่เอง!
มันเหมือนกับการได้ค้นพบความลับสุดช็อก ไทเลอร์อดไม่ได้ที่จะมองสการ์เล็ตต์อีกครั้ง
พูดตามตรง สการ์เล็ตต์สวยมากจริงๆ สวยแบบที่ใครก็ต้องยอมรับ แค่ใบหน้าของเธอก็เพียงพอที่จะสะกดใจคนได้แล้ว นี่ยังไม่นับรวมบุคลิกที่โดดเด่นเป็นพิเศษของเธออีก
อเล็กซานเดอร์ตาถึงจริงๆ
สการ์เล็ตต์เข้าไปดูอาการของเทรซี่แล้วเดินมาขอบคุณพวกเขา
ความรู้สึกผิดของเธอฉายชัดออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะโทรศัพท์ของอเล็กซานเดอร์ ป่านนี้เทรซี่คงได้พักผ่อนอยู่ในห้องทำงานไปแล้ว
ไทเลอร์โบกมือปัดแล้วเดินออกจากห้องไป แต่กลับไปชนเข้ากับอเล็กซานเดอร์ที่อยู่ด้านนอกพอดี
ดูเหมือนอเล็กซานเดอร์จะมาถึงได้สักพักแล้ว เขายืนอยู่นอกประตู มองสการ์เล็ตต์ผ่านกระจก
ไทเลอร์แตะบ่าอเล็กซานเดอร์เบา ๆ พยายามจะให้คำแนะนำ “เพื่อนเอ๊ย จะไปยุ่งกับเมียชาวบ้านเขาทำไมวะ แกน่าจะ...”
อเล็กซานเดอร์ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง เขาพูดตัดบท “ไสหัวไป”
เมื่อรู้ตัวว่าพูดผิด ไทเลอร์ก็รีบสาธิตให้พยาบาลดูว่าการทำตามคำสั่งของอเล็กซานเดอร์โดยไม่มีข้อกังขานั้นเป็นอย่างไร เขารีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
อเล็กซานเดอร์ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอีกครู่หนึ่ง มองสการ์เล็ตต์ที่กำลังง่วนอยู่กับธุระของเธอ
เขาขยับหลบไปด้านข้างแล้วกดโทรศัพท์หาไมค์
รุ่งอรุณกำลังมาเยือน
ไมค์รับสายอย่างรวดเร็ว “คุณคิงครับ”
อเล็กซานเดอร์สั่ง “พอถึงตอนเช้า ส่งอาหารเช้าไปที่โรงพยาบาลเลคไซด์ ห้อง 607 เอาอะไรที่เหมาะกับเด็กสองขวบที่เป็นไข้มาด้วย คุณไปจัดการเอาเอง”
เขารู้นิสัยสการ์เล็ตต์ดีว่าเวลาที่เธอยุ่ง เธอจะไม่มีเวลากินข้าว
“แล้วก็เตรียมเสื้อผ้าผู้หญิงสบาย ๆ มาชุดหนึ่งด้วย”
แม้ไมค์จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่เขาก็ตอบกลับ “ครับ คุณคิง ผมจะรีบจัดการให้ทันที”
หลังจากวางสาย อเล็กซานเดอร์ก็ตั้งใจจะกลับ เขากลับมาประเทศได้ไม่นาน ยังมีเรื่องอีกมากที่รอให้เขาจัดการ
ก่อนจะไป เขาแวะไปหาไทเลอร์
ไทเลอร์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน จิ้มโทรศัพท์มือถือยิก ๆ ส่งต่อเรื่องซุบซิบของอเล็กซานเดอร์อย่างเมามัน
“ฉันจะกลับเข้าออฟฟิศแล้ว ฝากดูทางนี้ด้วย มีอะไรก็โทรหาฉัน”
ไทเลอร์พยักหน้าอย่างจริงจัง
อเล็กซานเดอร์เสริม “แล้วก็เลิกเมาท์เรื่องของเธอในกรุ๊ปแชตได้แล้ว”
ประตูปิดลง อเล็กซานเดอร์จากไปแล้ว
ไทเลอร์ถูกทิ้งให้ขบคิดถึงคำพูดสุดท้ายนั้น และยิ่งเชื่อมั่นว่าอเล็กซานเดอร์อินกับเรื่องนี้มากเกินไปแล้ว
ที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล อเล็กซานเดอร์หยุดชะงัก
ไม่ไกลออกไป เซบาสเตียนอยู่กับเอ็มม่า คนรักของเขา
เอ็มม่าเกาะแขนเซบาสเตียน เอนตัวพิงเขาทั้งตัว
อเล็กซานเดอร์เหลือบมองนาฬิกา หกโมงครึ่ง
เวลานี้ แทนที่จะโทรหาหมอประจำตระกูล กลับเล่นใหญ่มาโรงพยาบาล เจตนาของเอ็มม่านั้นชัดเจน
เขากวาดตามองไปรอบ ๆ และเห็นเงาของกล้องถ่ายรูปอยู่หลังต้นไม้
อีกไม่กี่ชั่วโมงก็คงจะมีข่าวลง
พวกเขาเตรียมตัวกันมาอย่างดี
ในทางกลับกัน สการ์เล็ตต์ที่ต้องลำบากโบกรถแท็กซี่กลางสายฝนพร้อมกับลูกที่กำลังเป็นไข้ ช่างดูน่าสมเพช
อเล็กซานเดอร์รู้สึกโกรธขึ้นมาวูบหนึ่ง
เซบาสเตียนสังเกตเห็นเขาและเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็วด้วยความประหลาดใจ “คุณอาอเล็กซานเดอร์? มาทำอะไรที่นี่ครับ”
อเล็กซานเดอร์หาข้ออ้าง “รู้สึกไม่ค่อยสบาย เลยมาให้น้ำเกลือ”
แล้วเขาก็ถามกลับ “แล้วเธอมาทำอะไรที่โรงพยาบาลแต่เช้า”
เซบาสเตียนอธิบาย “เอ็มม่าไม่สบายน่ะครับ ผมเลยพาเธอมาตรวจ”
อเล็กซานเดอร์แค่นเสียง “ไม่มีหมอประจำตระกูลหรือไง”
แม้จะงุนงงกับคำถามของอเล็กซานเดอร์ เซบาสเตียนก็ยังอธิบาย “เอ็มม่าบอกว่าเป็นโรคเก่า ปกติเธอก็มาที่โรงพยาบาลเลคไซด์ตลอด มาหาหมอที่คุ้นเคยจะเร็วกว่าครับ”
เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น
แต่เซบาสเตียนก็เลือกที่จะเชื่อ
อเล็กซานเดอร์เหลือบมองเอ็มม่าอย่างเย็นชา พลางพูดเตือน “เมื่อวานเธอเพิ่งจะหมั้นนะ”
เซบาสเตียนทำท่าไม่ใส่ใจ “แล้วจะให้สนใจอะไรล่ะครับ”
สีหน้าของอเล็กซานเดอร์เคร่งขรึมลง
นี่น่ะหรือคือผู้ชายที่สการ์เล็ตต์เลือก?
เขาไม่เข้าใจเลยว่ารสนิยมของเธอตกต่ำลงได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไง
เอ็มม่าดึงแขนเสื้อของเซบาสเตียน พลางกระซิบ “เซบาสเตียนคะ ฉันรู้สึกไม่ดีเลย”
อเล็กซานเดอร์มองเธอ เอ็มม่าซบอยู่ในอ้อมแขนของเซบาสเตียน ตัวสั่นเทา
เล่นละครเก่งไม่เบา
เซบาสเตียนกล่าวลาเขา
ก่อนจะจากไป อเล็กซานเดอร์ก็อดไม่ได้ที่จะถาม “เธอไม่สนใจ แต่คู่หมั้นของเธอจะรู้สึกยังไง”


























































